มกอช. ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ในการประชุมคณะกรรมการโคเด็กซ์ สาขาหลักการทั่วไป ครั้งที่ 34 (The 34th Session of Codex Committee on General Principles; CCGP) ระหว่างวันที่ 2 - 6 มิถุนายน 2568 ณ เมืองลีล สาธารณรัฐฝรั่งเศส

น.สพ.ชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ นางสาวณมาพร อัตถวิโรจน์ ผู้อำนวยการกลุ่มมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ สำนักกำหนดมาตรฐาน ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ในการประชุมคณะกรรมการโคเด็กซ์ สาขาหลักการทั่วไป ครั้งที่ 34 (The 34th Session of Codex Committee on General Principles; CCGP) ระหว่างวันที่ 2 - 6 มิถุนายน 2568 ณ เมืองลีล สาธารณรัฐฝรั่งเศส พร้อมด้วยนางสาววิชชุลดา ยั่งยืน นักวิชาการมาตรฐานชำนาญการ สำนักกำหนดมาตรฐาน และผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นคณะผู้แทนไทย การประชุม CCGP ครั้งที่ 34 นี้เป็นวาระครบรอบ 60 ปีของการก่อตั้ง CCGP ซึ่งเป็นหน่วยงานย่อยที่สำคัญ ในการดำเนินงานและกำหนดกลไกการทำงานของโคเด็กซ์ เพื่อให้โคเด็กซ์บรรลุเป้าหมายของโคเด็กซ์ในการปกป้องผู้บริโภคและสร้างความเป็นธรรมในการค้าระหว่างประเทศ และสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับ การรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น โดยมีสาธารณรัฐฝรั่งเศสทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการ การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาทบทวนคู่มือการทำงานโคเด็กซ์ (Codex Procedural Manual) ในประเด็นเกี่ยวกับรูปแบบและความสอดคล้องของเนื้อหา การทบทวนแนวทางปฏิบัติสำหรับหน่วยงานย่อยต่าง ๆ ของโคเด็กซ์ (subsidiary bodies) และแนวทางการปรับปรุงมาตรฐานและเอกสารของโคเด็กซ์ การพิจารณาทบทวนหลักการการมีส่วนร่วมขององค์กรระหว่างประเทศที่ไม่ใช่ภาครัฐ (international non-governmental organizations) ในงานของคณะกรรมาธิการโคเด็กซ์ การทบทวนแนวทางการใช้ข้อกำหนดที่มีอยู่สำหรับการพิจารณาข้อเสนองานใหม่ที่ไม่อยู่ในขอบข่ายการทำงานของโคเด็กซ์ และการทบทวนการใช้หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติสำหรับคณะกรรมการโคเด็กซ์และคณะทำงานเฉพาะกิจที่ดำเนินงานในรูปแบบการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Committees Working by Correspondence; CWBC) ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมแสดงท่าทีในการปรับปรุงคู่มือการทำงานโคเด็กซ์ในประเด็นสำคัญ ได้แก่ การยึดหลักการในการสร้างฉันทามติบนพื้นฐานของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอ หนักแน่น ครบถ้วน และน่าเชื่อถือ รวมทั้งมีความครอบคลุมข้อมูลจากประเทศสมาชิก โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา โดยสามารถใช้ concern form ที่โคเด็กซ์กำหนดขึ้นเป็นเครื่องมือสนับสนุนที่ช่วยให้สมาชิกสามารถขอคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมจากคณะผู้เชี่ยวชาญร่วมของ FAO/WHO ตามที่ระบุไว้ในคู่มือการทำงานของโคเด็กซ์สำหรับแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการวิเคราะห์ความเสี่ยงของคณะกรรมการ โคเด็กซ์ สาขาสารพิษตกค้าง (CCPR) และสาขายาสัตว์ตกค้าง (CCRVDF) เพื่อให้กระบวนการทำงานโปร่งใส และเป็นที่ยอมรับ โดยที่ประชุมเห็นชอบการปรับแก้ไขแนวปฏิบัติตามความเห็นของประเทศไทย พร้อมทั้ง ลงบันทึกความเห็นของประเทศไทยเกี่ยวกับมาตรการที่คณะกรรมการพิจารณานำมาใช้เพื่อเอื้อต่อการสร้างฉันทามติควรสอดคล้องกับมาตรการที่คณะกรรมาธิการได้กำหนดไว้ในคู่มือการทำงานของโคเด็กซ์ 
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบตามข้อเสนอของประเทศไทยในประเด็นการเสนอปรับแก้ไขคำจำกัดความของการแก้ไขให้ถูกต้อง (correction) ให้ครอบคลุมความผิดพลาดที่การจากการพิมพ์ผิด (typographical)ในแนวปฏิบัติเพื่อความชัดเจน รวมถึงการยกตัวอย่างไว้ในรายงานการประชุมเพื่อประโยชน์ในการอ้างอิงในอนาคต และประเด็นการเสนอปรับแก้ไขหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติสำหรับ CWBC โดยให้สามารถดำเนินการหารือโดยใช้ระบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (simultaneous virtual presence) เพื่อพิจารณากำหนดประเด็นเฉพาะต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้การดำเนินงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพกระบวนการทำงานของโคเด็กซ์ ให้มีแนวทางการทำงานโปร่งใส ชัดเจน ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลกและเทคโนโลยี รวมทั้งทำให้หน่วยงานย่อยของโคเด็กซ์ดำเนินงานได้อย่างเป็นไปในแนวทางเดียวกัน อันจะนำไปสู่การจัดทำมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศที่เชื่อถือได้ เป็นธรรม และตอบสนองต่อความท้าทายของโลกในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิผล