รองเลขาธิการ มกอช. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ส่งออก เข้าสู่ระบบมาตรฐานบังคับภายใต้พระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 เรื่อง หลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ (มกษ. 9070 - 2566) ณ จังหวัดชุมพรและจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 10 - 12 มิถุนายน 2568

                มกอช. เร่งเครื่องมาตรฐานบังคับสำหรับล้งทุเรียนผลสดก่อนการบังคับใช้ วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ดร.พงศ์ไท ไทโยธิน รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ส่งออก เข้าสู่ระบบมาตรฐานบังคับภายใต้พระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 เรื่อง หลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ (มกษ. 9070 - 2566) ณ จังหวัดชุมพรและจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 10 - 12 มิถุนายน 2568 โดยการสัมมนาดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติตามมาตรฐานบังคับดังกล่าว โดยโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุทุเรียน (ล้ง) ต้องได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต รวมถึงได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรเรื่อง หลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ (มกษ. 9070 – 2566) ซึ่งจะต้องมีการตรวจวิเคราะห์เปอร์เซนต์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนตามที่กำหนด รวมทั้งผู้ส่งออก และผู้นำเข้าทุเรียนผลสดจะต้องมาขึ้นทะเบียนกับ มกอช. ด้วยเช่นกัน ซึ่งภายในงานได้มีการให้คำปรึกษาเคลื่อนที่ (Mobile Unit) และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการเพื่อยื่นขอใบอนุญาตผ่านระบบ TAS-License รองเลขาธิการ มกอช. ได้เน้นย้ำว่าตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป การส่งออกทุเรียนผลสดไปต่างประเทศต้องดำเนินการดังนี้ 1) สวนทุเรียนต้องได้รับการรับรอง GAP และมีการบันทึกข้อมูลอายุผลทุเรียน (วันดอกบานถึงวันเก็บเกี่ยว) หรือมีการตรวจ %น้ำหนักแห้งของทุเรียนก่อนตัด 2) ผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้นำเข้า ต้องขอใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้นำเข้า ผ่านระบบ TAS-License ของ มกอช. 3) ผู้ผลิต (ล้ง) ต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน มกษ. 9070-2566 จากผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน (CB) ซึ่งปัจจุบันมี 13 รายที่สามารถให้การรับรอง นอกจากนี้ มกอช. จะได้ประสานแจ้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการมายื่นขอใบอนุญาตซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานบังคับ และได้ประสานแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคใต้ที่มีโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุทุเรียนตั้งอยู่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมเกษตรในพื้นที่ช่วยประชาสัมพันธ์ไปยังเกษตรกรและผู้ประกอบการ รวมถึงแจ้งภาคเอกชน เช่น สมาคมที่เกี่ยวข้องการผลิต การส่งออกทุเรียนไทย และ shipping ตัวแทนออกของบริษัทผู้ส่งออกอีกด้วย ทั้งนี้ สามารถติดต่อรายละเอียดการขอใบอนุญาต ผ่านระบบ TAS-License ได้ที่ กลุ่มงานอนุญาตและขึ้นทะเบียน กองควบคุมมาตรฐาน มกอช. โทร 02-561-2277 ต่อ 5227 หรือ 095-8712113 เว็บไซต์ https://tas.acfs.go.th/nsw/ จากข้อมูลกรมวิชาการเกษตร ในปี 2568 พื้นที่จังหวัดภาคใต้มีโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุทุเรียนที่ขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช (DOA) จำนวน 612 แห่ง ได้แก่ ชุมพร 534 แห่ง นครศรีธรรมราช 50 แห่ง สุราษฎร์ธานี 13 แห่ง ยะลา 10 แห่ง สงขลา 3 แห่ง และนราธิวาส 2 แห่ง ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว หากโรงรวบรวมและคัดบรรจุทุเรียนประสงค์จะส่งออก ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 จะต้องแนบใบอนุญาตและใบรับรองตามมาตรฐานบังคับดังกล่าวประกอบการส่งออก