มกอช. ร่วมเข้าตรวจสอบทุเรียนแช่เยือกแข็งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ และมาตรฐานบังคับทุเรียนแช่เยือกแข็ง (มกษ. 9046-2560)

30 May 2568
20
มกอช. ร่วมเข้าตรวจสอบทุเรียนแช่เยือกแข็งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ และมาตรฐานบังคับทุเรียนแช่เยือกแข็ง (มกษ. 9046-2560)
ธนดล นำทีม ฉก.พญานาคราช ลุยตรวจทุเรียนแช่เยือกแข็ง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีอย่างต่อเนื่อง
            วันนี้ ฉก. พญานาคราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านทุเรียนแช่เยือกแข็ง ทั้ง มกอช. กวก. นำทีมโดย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการ มกอช มอบหมายให้นายกิตติเกษม นิ่มสะอาด ผู้อำนวยการกองควบคุมมาตรฐาน นางพัทธนันท์ เกษมวีรศานต์ ผุ้อำนวยการกลุ่มควบคุมตรวจสอบเฝ้าระวัง นายอัทธพงศ์ ติติธรรมพิพัฒน์ ผุ้อำนวยการกลุ่มนิติการ ร่วมเข้าตรวจสอบบริษัท ควีนโฟรเซ่น ฟรุ๊ต จำกัด และบริษัท ซัคเซส อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ และมาตรฐานบังคับทุเรียนแช่เยือกแข็ง (มกษ. 9046-2560) โดยได้เข้าเก็บตัวอย่างทุเรียนแช่เยือกแข็งเพื่อสุ่มตรวจสีห้ามใช้ BY2 โลหะหนักแคดเมียม และเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ๔ ชนิด ตามมาตรการควบคุม ตรวจสอบ เฝ้าระวัง ก่อนส่งออกไปจีน เพื่อป้องกันสินค้าถูกตีกลับจากประเทศคู่ค้า และตรวจสอบข้อมุลการรับวัตถุดิบ การจัดการวัตถุดิบ ตลอดจนข้อมุลการส่งออกของบริษัทดังกล่าว
           อนึ่ง ตามที่ ศาสตราจารย์ ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ มกอช. ประสานกับ อย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กรมศุลกากร กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กรมวิชาการเกษตร เพื่อร่วมหารือแนวทางยกระดับมาตรการกำกับดูแลทุเรียนแช่เยือกแข็งนำเข้า ซึ่งได้นัดหมายช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2568 เพื่อบูรณาการร่วมกันในการป้องกันสินค้าที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาในประเทศไทย
           ทั้งนี้ จังหวัดปทุมธานีมีโรงงานที่ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็งตามมาตรฐานบังคับ 19 โรงงาน และสถิติกรมศุลกากรประเทศไทยมีปริมาณการนำเข้าทุเรียนแช่เยือกแข็งในปี 2568 (ม.ค. – เม.ย.) มีปริมาณ 13,155,665 กิโลกรัม มูลค่า 1,376,624,664 บาท มีการนำเข้าในปริมาณที่สูงกว่าปี 2567 ในช่วงเวลาเดียวกัน (มค.-เม.ย) มีปริมาณ 10,331,977 กิโลกรัม มูลค่า 1,205,896,038 บาท