มกอช. ได้เข้าร่วมหารือเชิงวิชาการร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์, สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุตรดิตถ์, สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และสำนักงานเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาและยกระดับมะม่วงหิมพานต์ท้องถิ่นสู่การขึ้นทะเบียน GI

             นางสาวกุลพิพิทย์ จันทร์บวย ผู้อำนวยการกองส่งเสริมมาตรฐาน สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้เข้าร่วมหารือเชิงวิชาการร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์, สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุตรดิตถ์, สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และสำนักงานเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาและยกระดับมะม่วงหิมพานต์ท้องถิ่นสู่การขึ้นทะเบียน GI

             ในการประชุมครั้งนี้ ได้รับฟังผลการวิจัยจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พจนีย์ แสงมณี และคณะนักวิจัย ซึ่งนำเสนอข้อมูลสำคัญจากการศึกษาห่วงโซ่คุณค่าของมะม่วงหิมพานต์อุตรดิตถ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ประกอบการจัดทำคำขอขึ้นทะเบียน GI อย่างมีประสิทธิภาพ

             ข้อมูลที่ได้นำเสนอในครั้งนี้ถือเป็น ร่างฉบับแรก (Draft 1) ของเอกสารคำขอขึ้นทะเบียน GI ซึ่งมีความครบถ้วนและชัดเจนในรายละเอียด ทั้งด้านแหล่งที่มา ลักษณะเฉพาะ และคุณลักษณะพิเศษของผลิตภัณฑ์ โดยในลำดับถัดไป คณะทำงานจะนำข้อมูลดังกล่าวไปสู่การระดมความคิดเห็นและสร้างการมีส่วนร่วมจากกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อจัดทำ ร่างฉบับที่ 2 (Draft 2) ก่อนเข้าสู่กระบวนการยื่นคำขออย่างเป็นทางการ ร่วมทั้งมีการลงพื้นที่ตรวจแปลงเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) พร้อมด้วย เกษตรกรผู้ปลูกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ สภาองค์กรชุมชนตำบลน้ำไผ่ ตำบลน้ำไผ่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ได้รับการตรวจแปลงเพื่อยื่นขอขอ Gap จำนวน 39 ราย โดยมี ทีมผู้ตรวจประเมินจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอุตรดิตถ์ กรมวิชาการเกษตร (นายสุภชัย วรรณมณี นักวิชาการเกษตรชำนาญการ นายทวีป คดอุพ นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอุตรดิตถ์) ร่วมบูรณาการการดำเนินงานเพื่อสอดรับกับการขอยื่น GI อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประเมินกระบวนการผลิตและแนวทางการจัดการสวนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญต่อการยื่นคำขอ GI

             กิจกรรมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา นักวิจัย และภาคประชาชน ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากผ่านการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นอย่างมีคุณค่า